Go to www.iclicknews.com
Special Scoop

ประกัน เดินหน้าแคมเปญ GO Green”

By iclick Team

ประกันชีวิตระดับบิ๊ก KTAXA,mtl, AIA แข่งกันลอนช์แคมเปญ GREEN ค่าย AIA ลอนชฺ์ AIA+ (เอไอเอ พลัส) แอปพลิเคชันที่รวมทุกบริการจาก เอไอเอ เพื่อความสะดวกในการจัดการกรมธรรม์แบบครบวงจรตามสโลแกน "แอปเดียวจบ ครบทุกบริการ" เปิดตัวแคมเปญ ESG ครั้งใหญ่ "AIA+ Go Green" ภายใต้สโลแกน "ลดการพรินต์ เพิ่มการปลูก สู่หมื่นต้นกับ AIA+" เชิญชวนผู้ถือกรมธรรม์หันมาดำเนินธุรกรรมไร้กระดาษบนแอปพลิเคชัน AIA+ กับบริการ e-Document และ e-Receipt โดยตั้งเป้าหมาย 100,000 กรมธรรม์ ภายในสิ้นปี 2567 โดยทุกๆ 10 กรมธรรม์ เอไอเอ จะช่วยปลูกต้นไม้ 1 ต้น เพื่อนำไปสู่การเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย ด้วยการปลูกต้นไม้รวม10,000 ต้น
แคมเปญ AIA+ Go Green เป็นการเดินหน้าตามนโยบาย ESG ของ เอไอเอ ประเทศไทย ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนมากมายในสังคมไทยตลอดระยะเวลากว่า 86 ปี โดยเอไอเอตระหนักถึงความสำคัญของการยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยควบคู่กับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, and Governance - ESG) ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพและยกระดับชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ทั้งยังตระหนักถึงผลกระทบของภาวะโลกเดือด (Global Boiling) ที่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการรับมือและแก้ไข
AIA+ จึงริเริ่มแคมเปญ “AIA+ Go Green” ขึ้นเพื่อเชิญชวนให้ผู้ถือกรมธรรม์เอไอเอทุกราย ได้มีส่วนร่วมในการลดการใช้ทรัพยากรและหันมาดำเนินธุรกรรมไร้กระดาษ (Paperless Transactions) ผ่านแอปพลิเคชัน AIA+ และใช้บริการ e-Document (เอกสารอิเล็กทรอนิกส์) และ e-Receipt (ใบเสร็จรับเงินชำระเบี้ยฯ รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์) ที่สะดวก ใช้งานง่าย และสามารถช่วยจัดเก็บทุกเอกสารสำคัญได้อย่างปลอดภัยพร้อมใช้งานตลอดเวลา
ดร. คริสเตียน โรแลนด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และดิจิทัล เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “อีกหนึ่งการขับเคลื่อนสำคัญของแนวปฏิบัติ ESG ของ เอไอเอ คือการนำเทคโนโลยียุคดิจิทัลเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ ความสะดวกสบาย และลดการใช้ทรัพยากรในทุกกระบวนการดำเนินงานของบริษัท นอกจากแคมเปญ AIA+ Go Green จะทำให้ลูกค้าได้ร่วมลดการใช้กระดาษกับเราได้ง่าย ๆ แล้ว เรายังอยากให้ลูกค้าได้รับความสะดวกจากการใช้แอป AIA+ ซึ่งมีระบบความปลอดภัยขั้นสูง ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าเอกสารสำคัญทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกรมธรรม์ ใบแจ้งยอดชำระเงิน ใบเสร็จรับเงิน ไปจนถึงเอกสารเกี่ยวกับสินไหม จะอยู่ในแอปอย่างปลอดภัยและพร้อมใช้งานตลอดเวลา ช่วยตัดปัญหาการค้นหาเอกสารสำคัญไม่เจอ เรามั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับความสะดวกสบายทุกครั้งที่ใช้แอป AIA+”
สำหรับแคมเปญ AIA+ Go Green เริ่มขึ้นตั้งแต่ 1 สิงหาคม- 31 ธันวาคม 2567 ซึ่ง เอไอเอ ประเทศไทย เชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะช่วยสร้างพลังการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถเชิญชวนให้ลูกค้ามีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี พร้อมตั้งเป้าเปลี่ยน 100,000 กรมธรรม์ สู่การปลูกต้นไม้ 10,000 ต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและร่วมต่อสู้กับภาวะโลกเดือด (Global Boiling) โดยจะขยายความสำเร็จของโครงการ นำทีมโดย คุณพลับ จุฑาภัทร เหล่าธรรมทัศน์ และทีมผู้บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย พร้อมด้วยพนักงานอาสาสมัครที่จะมาร่วมปลูกต้นไม้ 10,000 ต้น ในต้นปี 2568
อลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “แคมเปญ AIA+ Go Green เป็นการตอกย้ำว่าพวกเราทุกคนต่างมีบทบาทในการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนร่วมกัน ปัจจุบันที่ เอไอเอ ประเทศไทย เราใช้กระดาษมากกว่า 60,000,000 แผ่นต่อปี เพื่อส่งเอกสารถึงผู้ถือกรมธรรม์ทุกท่าน หากผู้ถือกรมธรรม์เปลี่ยนมารับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ทั้ง e-Document และ e-Receipt ผ่านแอป AIA+ และบรรลุเป้าหมายของแคมเปญ 100,000 กรมธรรม์ภายในสิ้นปี เราจะประหยัดกระดาษได้ถึง 400,000 แผ่น
“เรามั่นใจว่าผู้ถือกรมธรรม์ เอไอเอ จะดาวน์โหลดแอป AIA+ และรับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแคมเปญ AIA+ Go Green เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่สนับสนุนพันธกิจ AIA One Billion ที่ต้องการให้ผู้คนกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้มีส่วนร่วมเพื่อการมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2573”
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ AIA+ Go Green เพื่อมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ลดภาระให้สิ่งแวดล้อม เปลี่ยนสู่ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีความสะดวกและปลอดภัย ด้วยการดาวน์โหลดแอป AIA+ พร้อมสมัครรับบริการ e-Document และ e-Receipt เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยรักษ์โลกไปกับ เอไอเอ ประเทศไทย ลูกค้า เอไอเอ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน AIA+ และลงทะเบียนรับ e-Document และ e-Receipt ได้แล้ววันนี้ผ่านสมาร์ตดีไวซ์บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
เมืองไทยประกันชีวิต จัดกิจกรรม “ปล่อยเต่าทะเล”
ณ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัท ฯ มีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพตัวแทน เพื่อยกระดับศักยภาพและทักษะความรู้ของตัวแทนในการให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างทีมงานที่มีคุณภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนาคุณภาพของตัวแทนถือว่าเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่ต้องการให้ตัวแทนมีความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการให้บริการที่มีคุณภาพ รวมถึงสามารถยกระดับความพึงพอใจและความไว้วางใจจากลูกค้าได้ ในโอกาสนี้บริษัท ฯ จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อการพัฒนาคุณภาพตัวแทน ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมและการฝึกอบรมหลายรูปแบบ อาทิ การฝึกอบรมด้านวิชาการและทักษะการขาย : การจัดอบรมเชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ฯ รวมถึงการฝึกทักษะการขายและการให้คำปรึกษาเพื่อให้ตัวแทนมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการลูกค้า การพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยี : การฝึกอบรม การใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อให้ตัวแทนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนการพัฒนาทักษะการสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า : เพื่อฝึกอบรมการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจจากลูกค้า
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้นำคณะตัวแทนจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ปล่อยเต่าทะเลคืนสู่ธรรมชาติ ตลอดจน การร่วมทำความสะอาดบ่อพักและบ่อดูแลเต่าที่บาดเจ็บก่อนปล่อยสู่ทะเล โดยวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมดังกล่าว คือ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้บริหาร และตัวแทน ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกให้ตัวแทนของบริษัทฯ มีจิตสาธารณะ รักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงระบบนิเวศของประเทศไทย ในโอกาสนี้ เมืองไทยประกันชีวิต โดยนายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้บริจาคเงินเพื่อการพัฒนาศูนย์อนุรักษ์เต่าทะเล กองทัพเรือ จำนวน 100,000 บาท โดยมีนาวาเอก พงษ์ศักดิ์ รามนุช ผู้บังคับการศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ เป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วยนาวาโทณภัทร บุญนรากร หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนกองบัญชาการหน่วยต่อสู้อากาศยานเเละรักษาฝั่ง และนายสัตว์แพทย์ กิรินทร์ สรพิพัฒน์เจริญ สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลเต่าทะเลร่วมในพิธี
สำหรับกิจกรรมปล่อยเต่าทะเลครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างตัวแทนของบริษัทฯ การทำกิจกรรมร่วมกันเช่นนี้จะช่วยเสริมสร้างความสามัคคีและความเข้มแข็งในทีมงาน ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นได้รับความสนใจ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากตัวแทนของบริษัทที่มีความมุ่งมั่นนำความรู้และประสบการณ์จากการเข้าร่วมกิจกรรมไปประยุกต์ใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิตที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมต่อไป
“เมืองไทยประกันชีวิตเชื่อว่าการพัฒนาคุณภาพของตัวแทนจะส่งผลดีต่อทั้งตัวแทนและลูกค้า โดยตัวแทนจะได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นในการทำงาน รวมถึงเป็นการสร้างหรือเพิ่มศักยภาพทีมงานที่แข็งแกร่ง สามารถแข่งขันในตลาดได้ ในขณะเดียวกันลูกค้าจะได้รับการบริการที่มีคุณภาพ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น”
จับตา ! ครึ่งปีหลังการแข่งขันดุเดือด แคมเปญ GREEN ของแต่ละค่ายคงลอนช์ออกมามากมาย สร้าง Brand Awareness ให้ค่ายตัวเอง เป็นที่จดจำของลูกค้า และคนทั่วไป
  --  
iClickNews.com