|
ธ.ก.ส. เปิดรับฝากสลาก ออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า วันนี้ ธ.ก.ส. เปิดรับฝาก สลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต ผ่านเคาน์เตอร์ ธ.ก.ส. สาขาทั่วประเทศเป็นวันแรก ในราคาหน่วยละ 500 บาท จำนวน 300 ล้านหน่วย วงเงินรวม 150,000 ล้านบาท ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากเกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไป ทำให้มียอดรับฝากผ่านทางเคาน์เตอร์ธนาคาร และแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ที่ได้เปิดรับฝาก ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2567 แล้วร่วม 30,000 ล้านบาท ธ.ก.ส. ขอขอบคุณลูกค้าและผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนผลิตภัณฑ์เงินฝากของธนาคาร ซึ่งธนาคารจะนำเงินดังกล่าวไปสนับสนุนเกษตรกรในการลงทุนและการผลิตในภาคการเกษตร เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงทางด้านอาหารให้กับประเทศต่อไป ซึ่งสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต มีอายุการรับฝาก 2 ปี เมื่อฝากครบกำหนด จะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 3 บาท คิดเป็นอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.30 ต่อปี และมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 1 เสี่ยงหมวด มูลค่า 20,000,000 บาทและรางวัลอื่นๆ จำนวน 634,020 รางวัล เป็นเงิน 159,100,000 บาทต่อเดือน จำนวน 24 ครั้ง
ได้แก่ รางวัลที่ 1 ต่างหมวด จำนวน 29 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 90 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท รางวัลที่ 3 จำนวน 300 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท รางวัลที่ 4 จำนวน 600 รางวัล รางวัลละ 3,000 บาท รางวัลที่ 5 จำนวน 3,000 รางวัล รางวัลละ 1,000 บาท รางวัลเลขท้าย 4 ตัว จำนวน 30,000 รางวัล รางวัลละ 300 บาท และรางวัลเลขท้าย 3 ตัว จำนวน 600,000 รางวัล รางวัลละ 200 บาท "เมื่อฝากสลากฯ 500,000 บาทขึ้นไป การันตีผลตอบแทน 400 บาทต่อเดือน ผลตอบแทนรวมเมื่อครบกำหนด 12,600 บาท และยังได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาและนำไปใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ของ ธ.ก.ส. ได้" นายฉัตรชัย กล่าว ธ.ก.ส. ขอเชิญชวนผู้รักการออมทุกท่าน มาร่วมออมเงินที่ได้ทั้งผลตอบแทนและได้ลุ้นโชคใหญ่แบบรวยเหลือแจกทุกเดือนกับสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต โดยสามารถฝากด้วยตนเองแบบง่าย สะดวก รวดเร็ว ผ่านทางแอปพลิเคชัน BAAC Mobile หรือผ่านทางเคาน์เตอร์ ธ.ก.ส. กว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ โดยสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต จะออกรางวัลครั้งแรกในวันที่ 16 กันยายนนี้ ตรวจผลการออกรางวัลได้ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile และบริการ BAAC Connect การแจ้งเตือนผ่าน LINE Official : BAAC Family สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือที่ Call Center 02 555 0555
Go To Lead
|
บัตรเครดิตกสิกรไทย 3 โปรอร่อยแรง มื้อนี้ K เลย อิ่มคุ้มฟินกับร้านอร่อยดังถูกใจสายกิน
บัตรเครดิตกสิกรไทย เสิร์ฟความอิ่มอร่อยเต็มแรงโดนใจสายกินกับโปรโมชันล่าสุด มื้อนี้ K เลย* ด้วย 3 โปรปังให้อิ่มคุ้มฟินทุกมื้อกับร้านอาหารอร่อยดังยอดฮิตทั่วไทย เริ่มตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2567-5 มกราคม 2568 รับความคุ้มค่าเต็ม ๆ เพียงใส่โค้ดและใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยทั้งโปรฟินกินคุ้มรับส่วนลดเมนูพิเศษสูงสุด 50% นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่รูดมื้ออร่อยบ่อย ๆ ก็ยิ่งมีโอกาสได้สิทธิ์รับฟรีดินเนอร์หรูมื้อพิเศษจากเชฟชื่อดังของ 3 ร้านอาหารดังระดับโลก และสุดคุ้มเพียงใช้คะแนน K Point ก็สามารถแลกรับเครดิตเงินคืน 12% รายละเอียดโปรโมชัน 3 รายการ ดังนี้
โปรโมชันที่ 1 ใช้โค้ดรับส่วนลดเมนูเด็ดสูงสุด 50% กับบัตรเครดิตวีซ่ากสิกรไทย ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2567- 5 มกราคม 2568 ที่ 10 ร้านยอดนิยม ได้แก่ Fuji, Shabushi, Sukishi, กับข้าวกับปลา, โอ้กะจู๋, Maguro, Coffee Beans By Dao, Ootoya, Bonchon, MK ลูกค้าผู้ถือบัตรกสิกรไทย (ทุกประเภท) สามารถกดรับโค้ดส่วนลดได้ง่าย ๆ เพียงเพิ่มเพื่อน LINE KBank Live จากนั้นพิมพ์ @Kdining? ในช่องแชท ก็จะมีโค้ดให้เก็บไปใช้ได้ทันที
โปรโมชันที่ 2 ยิ่งรูดมื้ออร่อยบ่อย ๆ ยิ่งมีสิทธิ์ สัมผัสประสบการณ์สุดฟินครั้งแรก ฟรีดินเนอร์หรูกับ 3 ร้านดังระดับโลก สำหรับลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตกสิกรไทย (ทุกประเภทบัตร) ในหมวดร้านอาหารตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ โดยมีจำนวนครั้งที่ใช้ตามเงื่อนไขดังกล่าวบ่อยที่สุด 20 ลำดับแรก สามารถรับสิทธิ์รับประทานอาหาร รางวัลละ 2 ที่นั่ง ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2567 ผ่าน K PLUS หรือ LINE KBank Live หรือ https://www.kasikornbank.com/k_3SNhyRd และใช้จ่ายเริ่มตั้งแต่ 15 สิงหาคม 2567- 30 พฤศจิกายน 2567 ผู้ชนะรางวัลแต่ละเดือนจะได้สิทธิ์รับประทานอาหารรอบเอ็กซ์คลูซีฟในร้านดัง ได้แก่ รับสิทธิ์ในเดือนพฤศจิกายน - ร้านสำรับสำหรับไทย (Samrub Samrub Thai) ร้านอาหารตำรับไทยโบราณ แบบ Chef's Table ของเชฟปริญญ์ ผลสุข เป็นร้านมิชลิน 1 ดาว และติดอันดับที่ 29 จาก 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2567 รับสิทธิ์ในเดือนธันวาคม - ร้านโพทง (Restaurant.Potong) เป็นร้านมิชลิน 1 ดาว โดดเด่นด้วยรูปแบบอาหารไทยจีนของคนจีนโพ้นทะเลมาปรุงและตีความใหม่ โดยเชฟแพม พิชญา สุนทรญาณกิจเจ้าของรางวัลเชฟหญิงยอดเยี่ยมแห่งเอเชียประจำปี 2567 รับสิทธิ์ในเดือนมกราคม - ร้านฤดู (Le Du) ร้านอาหารไทยร่วมสมัยที่คัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาลของประเทศไทย โดย เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เป็นร้านมิชลิน 1 ดาว และได้รับรางวัลอันดับ 1 จาก 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2566 โปรโมชันที่ 3 อิ่มอร่อยในร้านอาหารทั่วประเทศ คุ้มทุกมื้อเพราะใช้คะแนน K Point แลกรับเครดิตเงินคืน 12% เพียงส่ง SMS พิมพ์ รหัสตามร้านค้า (วรรค) หมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย (วรรค) จำนวนคะแนนสะสม K Point ที่ต้องการแลก ส่งมาที่ 4545888 (ครั้งละ 3 บาท)สนใจโปรโมชัน มื้อนี้ K เลย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.kasikornbank.com/k_3WVkgGM
Go To Lead
|
เมืองไทยประกันชีวิต 'รุก' CSR
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่บริหารงานให้มีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยให้ความสำคัญของการตอบแทนสังคมในทุกมิติ ไม่ว่ามิติด้านสิ่งแวดล้อม มิติด้านสังคม ตลอดจนมิติด้านบรรษัทภิบาล (ESG) โดยในโอกาสนี้บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในการปฏิบัติงานโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนนี้ บริษัทฯ จึงได้มอบชุดกันฝนและรองเท้าบูต ให้แก่ สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยงานจราจร วัตถุประสงค์ในการมอบชุดกันฝนในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถปฏิบัติหน้าที่ในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในช่วงฤดูฝนที่มีปริมาณฝนตกหนัก สภาพอากาศที่ไม่แน่นอนและฝนตกหนักอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานและสุขภาพตลอดจนความปลอดภัยในขณะปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการมอบชุดกันฝนครั้งนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
พันตำรวจโท ธนวิทย์ วิจิตรจริย รองผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก กล่าวว่า "ผมขอเป็นตัวแทนของเจ้าหน้าที่ตำรวจขอขอบคุณบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ที่ได้มอบชุดกันฝนเหล่านี้ให้กับสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก การสนับสนุนเช่นนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่และปลอดภัยยิ่งขึ้น ขอบคุณที่บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอย่างหนัก การมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมและพร้อมใช้เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานในทุกสภาพอากาศ
Go To Lead
|
กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต แผ่นดินทองเพื่อน้องๆ บ้านนานา ปีที่ 17
นางสาวบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต กล่าวว่า ทีมคณะผู้บริหาร พนักงาน และฝ่ายขายจิตอาสา ร่วมเดินหน้าสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน ผ่านกิจกรรมปลูกข้าว พร้อมทั้งมอบคอมพิวเตอร์ ในโครงการ แผ่นดินทองเพื่อน้องๆ บ้านนานา ปีที่ 17 ณ. มูลนิธิพันธกิจเด็กและชุมชน บ้านนานา อ. แม่สาย จ. เชียงราย ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทฯ จัดทำอย่างต่อเนื่อง และช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืน โดยสามารถช่วยสร้างผลผลิตข้าวให้แก่ชุมชน จาก 2,000 ก.ก. ต่อปี เพิ่มสูงขึ้นเป็นกว่า 7,000 ก.ก. ต่อปี
กิจกรรมแผ่นดินทองเพื่อน้องๆ บ้านนานา เป็นกิจกรรมที่ตอกย้ำปรัชญาการทำกิจกรรมเพื่อสังคมของ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ที่มุ่งเน้น การให้โอกาส ไม่ใช่เพื่อการกุศล Opportunity, not Charity ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนให้เด็กทุกคนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีความสุข ทั้งยังสามารถแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง รวมทั้งสร้างอาชีพและรายได้ให้กับชุมชน พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจ และจุดประกายให้หลายๆ ชุมชนของไทย เชื่อว่าทุกคนทำได้ หรือ Know You Can โดยบริษัทฯ พร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามกิจกรรมเพื่อสังคมดีๆ จาก กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Hearts.in.action.volunteers หรือ โทร 1159 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
Go To Lead
|
คปภ. ชี้ประกันภัยสุขภาพเติบโตมั่นคงรองรับผู้สูงวัย
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) ได้เข้าร่วมเสวนาในหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้นำทางการแพทย์ รุ่นที่ 1 (ปนพ.1) หัวข้อ ความสำคัญของประกันสุขภาพ ใน Aging Society ร่วมกับ นายสาระ ลํ่าซำ ประธานสภาธุรกิจประกันภัยไทย และ นายแพทย์ วุฒิวงศ์ สมบุญเรืองศรี ประธานคณะแพทย์ที่ปรึกษา สมาคมประกันชีวิตไทย เมื่อวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00 - 10.30 น. ณ ห้องประชุมวชิรเวช ชั้น 14 อาคารมหิตลาธิเบศร แพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหลักสูตรที่จัดขึ้นโดยสถาบันมหิตลาธิเบศร ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า โดยหลักสูตร ปนพ. มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแพทย์ยุคใหม่และบุคลากรในภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นทรัพยากรสำคัญที่จะเติบโตเป็นผู้นำในอนาคต ให้มีความพร้อมทั้งศาสตร์และศิลป์ของการเป็นผู้บริหารที่ทำงานเพื่อสาธารณประโยชน์ส่วนรวม ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม สามารถนำองค์ความรู้ไปปรับใช้แก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบประกันภัยแก่ผู้เข้ารับการอบรมโดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) มีหน้าที่ในการกำกับดูแล และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย คุ้มครองสิทธิประโยชน์ให้กับประชาชน โดยทำหน้าที่กำกับเพื่อให้บริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัย มีฐานะการเงินที่มั่นคงเพื่อสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือให้กับระบบประกันภัย รวมถึงคุ้มครองสิทธิประโยชน์ให้กับประชาชนและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยให้เป็นหนึ่งในองค์กรที่ดูแลประชาชนและเป็นอีกหนึ่งเสาหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับธุรกิจประกันภัยมีการลงทุนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 4 ล้านล้านบาท โดยปัจจุบันธุรกิจประกันภัยสุขภาพมีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงมาก ขณะเดียวกันการเรียกร้องสินไหมก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งเป็นความท้าทายของธุรกิจประกันภัยในการบริหารจัดการความเสี่ยงภัย รวมถึงสำนักงาน คปภ. ในการกำกับดูแลและสนับสนุนให้ธุรกิจประกันภัยพัฒนากรมธรรม์ประกันภัย เพื่อรองรับเรื่อง Aging Society ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม ดังนั้น สิ่งสำคัญคือเมื่อไหร่ก็ตามที่บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยยื่นขอความเห็นชอบกรมธรรม์ประกันภัย สำนักงาน คปภ. มีหน้าที่ต้องตรวจสอบอัตราเบี้ยประกันภัย แบบข้อความ ความคุ้มครอง เงื่อนไขต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสมที่จะดูแลคุ้มครองประชาชนผู้เอาประกันภัย อีกทั้งสำนักงาน คปภ. ยังได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าถึงระบบประกันภัยสุขภาพได้ยากสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่เคยป่วยด้วยโรคร้ายแรงมาก่อนและอยู่ในภาวะโรคสงบแล้ว ด้วยการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มต่าง ๆ และเพื่อให้บริษัทนำไปใช้พัฒนาต่อยอดกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีรูปแบบใกล้เคียงกันได้
Go To Lead
|
วิริยะประกันภัยระดมพล นำ ปฏิบัติการ FIRST AID เร่งกู้รถน้ำท่วมภาคเหนือ
นายณัฐพงศ์ บุญเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ อันเนื่องมาจาก บริเวณภาคเหนือตอนบนมีฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากในบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงทั้ง 12 จังหวัดของภาคเหนือ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน การดำเนินชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก วิริยะประกันภัย มีการรับประกันภัยรถยนต์ไว้เป็นส่วนใหญ่ จากรายงานของศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนในเขตพื้นที่อุทกภัย ณ วันที่ 23 สิงหาคม พบว่า มีรถยนต์เกิดความเสียหายจากน้ำท่วม จำนวน 23 คัน แบ่งเป็น จังหวัดเชียงราย 13 คัน จังหวัดแพร่ 6 คัน จังหวัดพะเยา 3 คัน และจังหวัดน่าน 1 คัน ล่าสุด บริษัทฯ ได้ประสานไปยังเครือข่ายตัวแทน นายหน้า ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยง ให้ช่วยประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวไปโดยตรงต่อเจ้าของรถยนต์ว่า วิริยะประกันภัยพร้อมที่จะส่งรถยกไปนำรถออกจากพื้นที่เสี่ยงไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่บริษัทฯ จัดไว้ให้ หรือพื้นที่ที่เจ้าของรถยนต์มีความประสงค์ โดยเจ้าของรถยนต์สามารถประสานขอใช้บริการรถยกได้โดยตรงกับบริษัท เพียงติดต่อผ่านเบอร์ 1557 แจ้งผ่านตัวแทน ดีลเลอร์ หรือใช้มือถือแจ้งผ่านระบบ VClaim on VCall ตลอด 24 ชั่วโมง
นายณัฐพงศ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีความพร้อมรับมือกับวิกฤตน้ำท่วมในทุกพื้นที่ทั่วไทยที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี โดยการใช้ ปฏิบัติการ FIRST AID นำรถยกเข้ากู้รถยนต์ออกมาจากพื้นที่เสี่ยงอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความเสียหายจากอุทกภัยให้ได้มากที่สุด พร้อมกันนี้ ยังให้ความสำคัญกับการอบรมพัฒนาเสริมสร้างความรู้ความชำนาญให้แก่พนักงาน รวมถึงพัฒนากระบวนการทำงานของปฏิบัติการ FIRST AID อยู่ตลอดเวลา จึงเชื่อมั่นได้ว่าไม่ว่าอุทกภัยจะเกิดขึ้นที่ไหน และมีรถยนต์เสียหายจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนที่มีอยู่ทั่วประเทศไทยก็สามารถทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการสั่งการจากส่วนกลาง นอกจากการระดมสรรพกำลังเข้ากู้และซ่อมแซมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ ยังได้ระดมกลุ่มวิริยะจิตอาสาเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัย โดยบูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าสำรวจรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม ให้สำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ไปพร้อมกัน แล้วจึงดำเนินการให้ความช่วยเหลือในหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงกับสถานการณ์ความเดือดร้อนในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการเข้าช่วยเหลือประชาชนหลังน้ำลด เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาวะปกติต่อไป
Go To Lead
|
Gother แพลตฟอร์ม ท่องเที่ยว รู้ใจคนไทย
นายอนุพงษ์ เกรียงไกรลิปิกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสิร์ชเอ็นจินอ็อปทิไมเซชั่น จำกัด ผู้ก่อตั้งโกเธอร์ (Gother) เปิดเผยว่า โกเธอร์เป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวของคนไทยเพื่อคนไทย ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจจองที่พักและตั๋วเครื่องบินมากว่า 10 ปี มีจุดแข็งในการให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่เข้าถึงคนไทยและเข้าใจวัฒนธรรมการท่องเที่ยวของคนไทยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่เน้นการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experience) และไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) อำนวยความสะดวกทำให้นักท่องเที่ยวสามารถจองบริการท่องเที่ยวได้แบบครบวงจรกับบริการที่หลากหลาย ง่าย ครบ จนทำให้จำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการแพลตฟอร์มจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
โกเธอร์มุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการการท่องเที่ยว โดยให้บริการหลากหลายรูปแบบ เช่น บริการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ที่พัก แพ็กเกจทัวร์ ผ่านทางเว็บไซต์ www.gother.com และแอปพลิเคชันโกเธอร์ โดดเด่นด้วย โกเธอร์ คลับ (Gother KLUB) คอมมูนิตีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ และชื่นชอบการท่องเที่ยวคล้ายๆ กัน เช่น สายดำน้ำ สายมูเตลู สายกาแฟ เป็นต้น พร้อมส่งเสริมให้ทุกคนได้ออกไปท่องเที่ยวเปิดโลกตามแบบฉบับของตัวเอง ผ่าน กิจกรรมน่าลอง ครอบคลุมทั้งสวนสนุก สวนน้ำ นวดสปาและการผ่อนคลาย สุขภาพและความงาม เวิร์กชอปและกิจกรรมทางวัฒนธรรม สวนสัตว์และอควาเรียม และเดย์ทริป เป็นต้น
Go To Lead
|
|